กาญจนบุรีไม่ได้มีดีแค่สะพาน!!


หลังกลับมาจากอุทัย ไม่ได้กลับมาพร้อมความสุขใจอย่างเดียว แต่ดั๊นนน!!พ่วงน้ำหนักกลับมาด้วย มายังไงหล่ะ!! ก็แหมเห็นอะไรก็น่ากินไปซะหมด ก็กินมันเกือบซะทุกอย่างที่อยากกิน เลยต้องลงโทษตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง....

แต่ยังติดใจกับความเย็นฉ่ำของสายน้ำอยู่ อยากไปเที่ยวแล้วอ่ะ!! แต่ด้วยกำลังอินอยู่กับการออกกำลังกาย เราคงต้องหยุดพัก ไม่ได้น่ะ!!(ทะเลาะกับตัวเอง เบาๆ ) งั้นเราต้องหาที่เที่ยวที่ได้ทั้งพักผ่อนแล้วได้ออกกำลังไปพร้อมๆกัน โจทย์!!!นี้ยากเสียด้วยสิ

เหมือนเดิม...เริ่มค้นหาข้อมูล!! .............................................อืมมมม............... 
........... เจอแล้ว!!  กาญจนบุรี .. คือคำตอบใช่ที่สุด มีทั้งแม่น้ำ ป่า ถ้ำ โอ๊ย!!อยากไปซะเดี๋ยวนี้เลย แต่รอก่อน เพราะครั้งนี้เราควรจะมีสมาชิกเพิ่ม!!

เรื่องมีอยู่ว่า..เที่ยวคราวนี้ออกแนวลุยนิดๆ adventure หน่อยๆ ถ้าไปหลายๆคนก็น่าสนุกดี แล้วอีกอย่าง ตอนนี้เพื่อนสาวกำลังสมบรูณ์หนักมากกก สมควรที่จะไปรีดไขมันออกบ้าง ...แผนร้าย!! ไม่ใช่สิ แผนรัก!! ต่างหาก ..เริ่มดำเนินการขึ้น

เรา .... แกๆ ไปเที่ยวกันมั้ย
คุณเพื่อน ..... ทีไหน?
เรา .... กาญ ไปพักริมแม่น้ำแคว เย็นสบาย..........( หลอกล่อเต็มที่)
คุณเพื่อน .......(ฟัง).................. โอเคร
.................. เย้!!! ........... กาญจ๋า!! แล้วเจอกันน่ะจ๊ะ!!


เมื่อถึงวันออกเดินทาง.....ลั้นลาเต็มที่!! จุดแรกที่เราต้องไปเช็คอิน แน่นอน! สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่งั้นแสดงว่าไปไม่ถึง นักท่องเที่ยวเยอะมากๆๆ เลยไม่ได้แชะรูปมาฝาก ที่นี่คือแลนด์มาร์คของเมืองกาญเขาหล่ะ แต่มีอีกที่นึงที่น่าสนใจเหมือนกัน ห้ามพลาดน่ะ!!

 
ไปดูต้นจามจุรียักษ์ อยู่ในอำเภอด่านมะขามเตี้ย ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองกาญมากนัก อายุของต้นจามจุรีต้นนี้มากกว่า 100 ปี เชียวน่ะ เมื่อไปถึงต้องตะลึงถึงความสูงใหญ่ กิ่งก้านสาขาของต้นจามจุรีสร้างความสวยงามและร่มรื่นได้เป็นอย่างดี เราใช้เวลาตรงจุดนี้ไม่มากนัก คงต้องไปต่อแล้ว
 
ที่นี่แหละจะเป็นจุดเริ่มเผาผลาญไขมันของเรา 555++ ..ช่องเขาขาด.. อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด การเดินไปชมต้องใช้เวลาเดินไปและกลับราว 1-2ชั่วโมง 
 
ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดแสดง อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการสร้างทางรถไฟ รวมถึงความเป็นอยู่ อาหารการกิน หุ่นจำลองเชลยที่ถูกเกณฑ์มาใช้แรงงาน มีการจัดแสดงสารคดีสั้นเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟเส้นนี้
 
 
สำหรับเส้นทางที่จะเดินไปชมช่องเขาขาด จะอยู่ด้านล่างของพิพิธภัณฑ์ ตลอดเส้นทางเดินปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ทำให้ดูร่มรื่น เราสามารถเดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อย พอมาดูเวลาอีกทีนี่เราใช้เวลาเดินเกือบสองชั่วโมง รึเนี่ย !!! ผอมล่ะคราวนี้
 
 
 
ตามเส้นทางที่เราเดิน สังเกตได้ว่ายังคงมีเศษเหล็ก และอุปกรณ์บางส่วนที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดวางไว้ มีแผ่นข้อความแสดงความเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิต เพื่อเป็นการระลึกถึงความโหดร้าย และการสูญเสียที่มาจากสงคราม ... ที่เกิดขึ้น ณ.ที่แห่งนี้
 
...อ้อ!!ติดยากันยุงมาด้วยก็ดีน่ะ ตรงจุดชมวิว ยุงเยอะตัวก็ใหญ่มาก...
 
หลังจากเดินกลับมาจากเขาช่องขาด ขอนั่งสักแพร็บ!! ให้สมาชิกได้พักเพื่อทายา หลังจากโดนยุงกัดหนักมากระหว่างถ่ายรูป เหลือบมองนาฬิกาอีกทีบ่ายสามแล้ววว ทุกคนเลยต้องรีบขึ้นรถไปต่อ เพราะเรายังมีโปรแกรมของที่รีสอร์ทรออยู่อีก
 
เราพักกันที่ เดอะฟรอเรสรีสอร์ท ราคาคนละ 1200บาท รวมอาหาร 2 มื้อ เป็นบุฟเฟ่ต์ทั้งสองมื้อน๊าาา มีเติมให้ตลอด  พร้อมกิจกรรมล่องแพฟรีน่ะจ๊ะ รอบการล่องแพมี 3 รอบ คือ 16.00น. 17.00น. และ 18.00น.
 
 
เรามาทันรอบสุดท้ายพอดี เวลาล่องขาไปเขามีเรือลากให้ เราก็นั่งชมวิวทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำสบายๆ แต่ความมันส์มันอยู่ตรงนี้!! ขากลับเขาจะให้เราลงน้ำแล้วลอยตัวกลับมาที่พักเอง แต่ใครจะลงหรือไม่ก็ได้ ส่วนพวกเรา หึหึ!! ลงสิ!!
 
 
 
ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย ทางรีสอร์ทดูแลดีมากตั้งแต่การใส่เสื้อชูชีพ ระหว่างทางที่เราลอยตัวกลับก็จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นระยะๆ แต่...เราต้องดูแลตัวเองด้วย อย่าลืม!! ระยะทางที่เราต้องลอยกลับ เจ้าหน้าที่บอกว่าประมาณ1กิโลกว่าๆ เราว่าไม่น่าใช่ น่าจะมากกว่านั้น เหนื่อยโคตะระเลย!!! 
 
 
เราเป็นชุดสุดท้ายที่มาถึงรีสอร์ท พอขึ้นแพปุ๊บ!!กลิ่นกับข้าวก็โชยเตะจมูกปั๊บ ที่นี้ก็รีบกันสิค่ะ จัดแจงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เรื่องกินเรื่องใหญ่เหมือนกันน่ะเนี่ย
 
 หลังจากที่ใช้พลังงานตั้งแต่เดินช่องเขาขาด มาต่อด้วยตีขา แกว่งแขนในน้ำพาตัวเองให้รอดถึงที่พัก 555+++ ใช้แรงไปพอสมควร คุณเพื่อนเลยจัดอาหารมาทดแทนพลังงานที่เสียไป หรือจะเรียกให้ถูก!! จัดมามากกว่าพลังงานที่เสียไป แล้วทุกอย่างที่ทำมาวันนี้หล่ะ หมดกัน!! พรุ่งนี้เช้าว่ากันใหม่น่ะ
 
 
 
 
เช้านี้ตื่นขึ้นมา ก็พอจะได้เห็นหมอกจางๆ ซึ่งจางมากกก แต่สำหรับบรรยากาศหน่ะ บอกได้เลยว่าสุดยอดมาก นั่งสักพักก็ได้ยินเสียงบ่นมาจากข้างๆ "ปวดตัวไปหมด" หันไป อ้อ!!คุณเพื่อนเราเอง (คิดในใจ) ยัง!!มันยังไม่หมด วันนี้มีภาคสอง 5555+++
 
ได้เวลาเช็คเอ้าท์แล้ว อยากบอกว่าชอบที่นี่น่ะ อาหารเยอะมากและก็อร่อยทั้งสองมื้อเลย ประทับใจกับการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่นี่น่ะ ไว้เราจะกลับไปใหม่...
 
เดี๋ยวๆการออกกำลังกาย เอ๊ย!!การเที่ยวของเรายังไม่จบ มีอีกที่นึงที่เราอยากให้คุณเพื่อนของเราได้ไป จริงๆแล้วเราเคยไปมาครั้งนึง แต่ตอนนั้นไปกันแค่ 2 คน  ดันไปวันที่มีคนไปเที่ยวน้อยซะด้วย  เดินไปได้ครึ่งทางความกลัวจึงบังเกิด ครั้งนี้มีพวกแล้ว ขอกลับไปแก้ตัว
 
 
ถ้ำธารลอด อยู่ในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าชมอุทยานเสียก่อน ระยะทางการเดินป่าศึกษาธรรมชาติเริ่มตั้งแต่ 1กิโล แต่ถ้าเดินไปให้ถึงถ้ำธารลอดใหญ่ก็ประมาณ 2 กิโล คิดดูสิ!! ถ้าเราเดิน1กิโลจะเผาผลาญกี่แคล แต่เท่าที่กินไปเมื่อวาน อ้อ!!รวมเมื่อเช้าด้วย เดิน2กิโล ก็ยังผลาญไม่หมด
 
 
ระหว่างเดินเข้าถ้ำ ห้ามเสียงดัง เจ้าของบ้านเขานอนอยู่น่ะ อิอิ!! 
 
สิ่งที่ได้เห็นคือความสวยงามของหินงอกหินย้อย มีธารน้ำไหลผ่านตัวถ้ำ แต่ตอนเราไปน้ำแห้ง ถ้ามีน้ำคงเย็นสบาย ภายในถ้ำมีการติดตั้งไฟไว้เป็นบางช่วงเท่านั้น พกไฟฉายมาด้วยก็ดีน่ะ
 
 
 
 
 เดินผ่านตัวถ้ำธารลอดน้อย ประมาณ300เมตร ก็จะเจอปากถ้ำ พ้นออกมาก็จะเจอป่า เดินต่อไปอีก 2 กิโลก็จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่ มาครั้งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่เยอะพอสมควร เดินไปพร้อมกันบ้าง เดินสวนกันบ้าง ดีจัง!!จะได้ไม่เหงา
 
 
ตามเส้นทางที่เดินไปถ้ำธารลอดใหญ่ จะผ่านน้ำตกไตรตรึงษ์ และน้ำตกธารเงิน ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก นั่งพักเท้ากันก่อนแล้วค่อยเดินกันต่อ ถ้าเดินไปถึงถ้ำธารลอดใหญ่ รวมระยะทางไปกลับเกือบ 5 โล .....จริงดิ!! พูดจริง!!
 
 
ช่วงเวลาที่เราเดินไม่ได้รู้สึกถึงความอ่อนล้าเลยน่ะ อาจเป็นเพราะธรรมชาติ ทำให้เราโฟกัสไปที่สิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัว เสียงลำธารที่ไหลมาจากน้ำตก นกนานาพันธุ์ กระรอกที่วิ่งเล่นบนต้นไม้จากต้นนึงไปอีกต้นนึง ...ธรรมชาติสามารถบำบัดความรู้สึกได้ .... ธรรมชาติสามารถสร้างความสุขได้
 
 
 
กลับบ้านพร้อมยานวดคลายกล้ามเนื้อคนละหลอด 555++
 
 
 
ปิดทริปนี้!! ... ด้วยคำพูดของคุณเพื่อนที่บอกว่า เป็นทริปที่ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง มันคุ้มสุดๆ
แต่ทริปหน้า ขอเดินน้อยกว่านี้หน่อยน่ะ
 
 
จร้าาาาาาา!! ทริปหน้าจะจัดให้คุณเพื่อนเดินน้อยกว่านี้ แต่เปลี่ยนเป็น ....ปีนหน้าผา
ไต่เขาแทน.... ดีม่ะ!!!  
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 

 
   









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตามหาลมหนาวจากเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

ปางมะผ้า "ผ่านมาแล้ว..อย่าแค่ผ่านไป"

อยากพักปอด..มานอนสวนป่า